บ้านไร่กาแฟ กาแฟไทยที่ถูกหลงลืม

“บ้านไร่กาแฟ แบรนด์ที่กำเนิดกาแฟสด พลิกโลกแห่งกาแฟไทย”

ย้อนสู่ปี พุทธศักราช 2540 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในยุค ย่ำแย่ หลายๆธุรกิจต้องปิดตัวลง ไปรับผลกระทบกันเป็น โดมิโน่ แต่มีร้านกาแฟร้านเล็กๆที่ก่อตั้งโดย “คุณสายชล เพยาว์น้อย”สร้างแบรนด์ “บ้านไร่กาแฟ” ขึ้นมาอย่างเงียบๆ แต่ใครจะคิดว่า นี่คือ กาแฟสดที่พลิกวิถีกาแฟไทยไปตลอดกาล 

สอบถามพี่ๆที่ขายกาแฟให้เล่าถึงอดีตของ “บ้านไร่กาแฟ” พี่ๆใจดี เล่าให้เราฟังว่า จากเดิมเป็นเพียงแบรนด์ที่ขายกาแฟกระป๋องธรรมดา แต่จากการสังเกตวิถีการกินกาแฟของชาวบ้านภาคอีสาน ที่เห็นจน  ชินตา กับรสชาติที่สด ใหม่ ผสมผสานกับการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น เกิดเป็นแบรนด์ “บ้านไร่กาแฟ” ที่เน้นขาย “กาแฟสด” คำๆนี้ถือเป็นคำแปลกใหม่ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก สมัยนั้นถ้าใครจำได้ ในปั้มน้ำมัน “JET” เราจะพบเจอร้านกาแฟทรงสามเหลี่ยมในทุกๆปั้ม จนชินตา มีสาขามากถึง 110 สาขา ทั่วประเทศ ใครต้องขับรถทางไกล ใช้บริการปั้มน้ำมัน ย่อมต้องไปแวะเวียน ชิมรสชาติของกาแฟสดที่เหล่านักกินกาแฟไม่เคยพลาด…

มรสุมลูกแรกเข้ามาเยือน เมื่อปั้มน้ำมัน JET ได้ขายตัวเองให้กับ ปั้มน้ำมัน ปตท. และไม่ได้ต่อสัญญากับทางบ้านไร่กาแฟ จาก 110 สาขาทั่วประเทศ ถูกลดลงเรื่องๆ หลายๆ สาขาต่อสู้กันสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ จนในที่สุดเหลือเพียงแค่ สิบกว่าสาขา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ รสชาติและความหอมอร่อยระดับตำนาน ที่ไม่ยากหากจะทำเป็น “พิพิธภัณฑ์บ้านไร่กาแฟ” ของคุณสายชล เพยาว์น้อย ผู้สร้าง  แบรนด์บ้านไร่กาแฟ ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านไร่กาแฟ ที่บ้านเกิดของเขาเอง ที่อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี  นำเสนอตำนานหลายๆอย่างของกาแฟสด ที่มีโรงคั่วโบราณเป็นของตัวเอง เป็นโรงคั่วกาแฟที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขายของ สินค้าต่างๆมากมายจากชาวบ้านในพื้นที่ เป็นแหล่งรวบรวมของท้องถิ่น จากชาวบ้านในชุมชน มีการรังสรรค์กาแฟคั่วสดผ่านเครื่องคั่วโบราณ มาให้นักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมชมได้ลิ้มรสอีกด้วย

เดินชื่นชมกับนานาสินค้าจากชาวบ้านได้ไม่นาน ต้องมาสะดุดตากับเครื่องคั่วกาแฟโบราณเครื่องใหญ่ ที่ดูทรุดโทรมลงมาก แต่ดูยังไงก็ไม่ได้เป็นการทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงได้ข้อมูลจากคุณลุงนักท่องเที่ยว ผู้หลงใหลในกาแฟ ผู้ที่ไม่ว่าสาขาของบ้านไร่กาแฟจะลดจำนวนลงเพียงใด แต่ก็ยังตามหาจนเจอ นับได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบ้านไร่กาแฟ ได้เล่าให้ฟังว่า พิพิธภัณฑ์บ้านไร่กาแฟ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของกาแฟสด ผสมผสานอย่างลงตัวกับตลาดชุมชนเล็กๆจากชาวบ้านที่อยู่ในชุมชน นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการชิมกาแฟ เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น กินอาหารพื้นบ้านผสมกับอาหารทั่วๆไปที่ได้รับความนิยม คุณลุงยังบอกอีกว่า ลุงชอบมากที่ได้เห็นบรรยากาศแบบนั้น ลุงมาเที่ยวที่นี่บ่อยๆเพราะบ้านอยู่ไม่ไกล แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ช่วงปีพุทธศักราช 2560 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นที่ โรงคั่วกาแฟแห่งนี้ ไฟลุกโชนเป็นสีแดง ทุกอย่างหายไปในเปลวเพลิง อุปกรณ์คั่วกาแฟ สินค้า ผลิตภัณฑ์จากกาแฟที่เตรียมจัดส่ง ร้านค้า ร้านขายของบางร้านก็ได้รับผลกระทบ ทุกอย่างสูญหายภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เป็นหนึ่งชั่วโมงที่เปลี่ยนชีวิตจนไม่สามารถฟื้นคืนมาได้ รอเพียงเวลาที่ “กาแฟไทยแบบ้านไร่กาแฟ” จะกลับมาอีกครั้ง

หากใครผ่านไปผ่านมาแถวอำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์บ้านไร่กาแฟ” ที่มีร้านค้ามากมาย หลากหลายโซน เต็มไปด้วยของเก่าแก่มากมายที่นำมาแสดง จัดเป็นกลุ่มๆ กระจายเต็มพื้นที่ มีจุดถ่ายรูปชิคๆ มากมาย มาช่วยกันชุบชีวิตร้านกาแฟสด ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งกาแฟไทย กาแฟสดในตำนาน ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว เดินทางโดยใช้ทางหลวงเส้นพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ผ่านอำเภอวังน้อย อำเภอหนองแค และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอหนองแซง (จะมีป้ายบอกเส้นทางไปร้าน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

                รถโดยสารประจำทาง สายกรุงเทพ-สระบุรี ออกจากสถานีหมอชิต 2 มีหลายเที่ยวต่อวัน เมื่อถึงตัวเมืองให้ต่อรถโดยสารประจำทางมายังอำเภอหนองแซง หรือเหมารถมา บ้านไร่กาแฟ ราคาเหมารถประมาณ 300-500 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

Facebook