บัวลอย เป็นขนมหวานคู่คนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากประเทศไหน นิยมใช้ในงานมงคล งานเลี้ยงสังสรรค์ ในการทำจะอาศัยความพิถีพิถันเรื่องของการทำแป้ง สีสันของแป้ง และรสชาติ ให้มีความกลมกลืนกัน ซึ่งวัตถุดิบหลักของขนมบัวลอย คือ แป้งข้าวเหนียว และน้ำกะทิ ต่อมาได้มีการปรับปรุงพัฒนาใส่ Option เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นไข่หวาน ไข่เค็ม ข้าวโพด แห้ว เผือก ฟักทอง หรือเครื่องเคียงอื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขนม วันนี้จะมานำเสนอบัวลอยในตำนาน นั่นคือ บัวลอยเกตุแก้ว ….
ร้านเปิด :วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10:00 - 19:00 น. |
บริการ : ขนมบัวลอย |
ที่ตั้ง : ถ.ตะนาว ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า กรุงเทพฯ. (ตรงข้าม ธ.กรุงเทพฯ) |
พอนึกถึงขนมบัวลอยก็นึกถึงบัวลอยร้านดังที่กินมาตั้งแต่สมัยเรียน เวลาแวะไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือก็มักจะแวะชิมอยู่เสมอๆ ถึงแม้จะอิ่มจากของคาวละแวกนั้นแล้วก็ตาม นั่นคือ ร้านบัวลอยเกตุแก้ว จุดสังเกตคือร้านที่มองไม่เห็นหน้าร้าน เนื่องจากเป็นร้านบัวลอยขนาดเล็ก กะทัดรัด โดยใช้บริเวณชั้นล่างของอาคารตึกแถว 2 ชั้น บนถนนตะนาว แต่มีคนยืนรอหน้าร้านเพื่อรอซื้อกันจำนวนมาก ตัวร้านเป็นทั้งที่ผลิตและที่ขายในคราวเดียวกัน ร้านมีเพียง 2 โต๊ะ เล็กๆ หรือประมาณ 2-4 ที่เท่านั้น ร้านเน้นลูกค้าซื้อกลับ ทั้งมาซื้อเองที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery เสื้อหลากสี มีการจัดระเบียบโดยการแจกบัตรคิว แต่ละคิวใช้เวลารอไม่นาน แม่ค้าทำหน้าที่แต่ละตำแหน่งได้ค่อนข้างดีทีเดียว ทั้งหลังบ้านซึ่งคอยดูแลเรื่องการทำแป้ง (ใช้เครื่องทำเม็ด) หน้าร้านดูแลในส่วนรับออเดอร์ ต้มบัวลอย ทำไข่หวาน ตักใส่ถุง และส่งของให้ลูกค้า


บัวลอยเกตุแก้ว ร้านนี้ ใครเห็นคิวหน้าร้านเป็นต้องแวะ ทั้งแวะดู แวะซื้อ บางคนเรียกบัวลอยศาลเจ้าพ่อเสือ บางคนเรียกบัวลอยซิ่ง เพราะด้วยราคาไม่แรง จับต้องได้ สนนราคาอยู่ที่
บัวลอยธรรมดา 20.-บาท
ไข่หวาน/ไข่เค็ม 30.- บาท
และไข่คู่ 40.- บาท
แป้งหลากสีแนวพาสเทล ดึงดูดให้ชิมและถ่ายรูป ใส่เครื่องข้าวโพด ฟักทอง เผือก ส่วนน้ำกะทิ ก็มีเนื้อมะพร้าวอ่อนผสมอยู่ด้วย ในส่วนของรสชาติกำลังดี กลมกล่อม เนื้อแป้งหนุบหนับ ไม่นิ่มและแข็งจนเกินไป มีความหอมของตัวน้ำกะทิ เมื่อกินเข้าไปจะได้รับรสสัมผัสของตัวแป้งผสมกับเครื่องเคียงที่ค่อนข้างลงตัว หากสั่งแบบไข่ จะได้ความเค็มและความเข้มข้นของไข่ ผสมทำให้น้ำกะทิทำให้นัวขึ้นไปอีก


คนขายบอกว่าสีที่ใช้ผสมแป้งข้าวเหนียวนั้น ได้มาจากสีธรรมชาติทั้งสิ้น โดย สีเขียวได้จากใบเตย สีเหลืองได้จากฟักทอง สีม่วงได้จากดอกอัญชัน สีแดงได้จากน้ำกุหลาบ และสีส้มได้จากแครอท ซึ่งอุดมไปด้วยประโยชน์ต่างๆ ดูเหมือนพอจะเป็นข้ออ้างเล็กๆ ในการที่เราจะทานขนมหวานได้อย่างสบายใจ แต่เราในฐานะผู้บริโภค ได้ฟังแบบนี้ก็สบายใจ กินจนลืมนับแคลอรี่ไปเลยค่ะ
เวลาเปิด-ปิดร้าน วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10:00 – 19:00
ส่วนวันเสาร์ขอเปิดสาย เป็นเวลา 10:30 และปิดวันอาทิตย์
ส่วนที่จอดรถไม่มีบริการ
Pingback: 3 ร้าน บัวลอย หาดใหญ่ ต้องลอง พลาดไม่ได้ จะหาว่าเราไม่เตือน