ใครว่าทำกิมจิเป็นเรื่องของคนเกาหลี คงจะไม่ใช่อีกต่อไป เมื่อซีรี่ย์เกาหลีเข้ายืดครองทุกพื้นที่ในประเทศไทยของเราเช่นนี้ ดูซีรี่ย์แต่ละครั้งก็มีฉากกิน รามยอน กิมจิ ต๊อกบกกี (หรือ ต๊อกโบกี) อาหารประจำชาติของชาวเกาหลี ว่าไม่ได้นั่งดูไปก็อยากลองกินกับเค้าดูบ้าง ก็แหม!! ขายกันเก่งทั้งประเทศ ว่าไปแล้วบางคนก็อาจจะอยากกินกิมจิเหมือนเราแล้วก็ออกตัวไปหาซื้อของตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน มาลองทำ เพื่อให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันไป แล้วหากเกิดใครติดใจชอบกินขึ้นมา ก็แหมก็มันอร่อยดี บอกเลยว่าถ้านำกิมจิมาเป็นเครื่องเคียงคู่กับอาหารหลัก หมูสามชั้นย่าง มาม่า หรือจะทำเป็นข้าวผัด ก็อร่อยได้ง่ายคู่กับหลากหลายเมนูเชียว แต่ไอราคาเจ้ากิมจิมันก็แพงใช้ได้อยู่เน๊อะ (ทุกคนว่ามั๊ยคะ?) แล้วในยุคนี้อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด วันนี้เราเลยมี กิมจิ สูตรง่ายๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ สูตรที่เด็กหออย่างเราทำเก็บไว้กินได้สบาย ๆ เลย ทำครั้งเดียวเก็บสามารถเก็บไว้กินได้นานเลยนะจะบอกให้
ขั้นตอนการทำกิมจิก็ง่าย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร และส่วนผสมของกิมจิก็สามารถหาได้ง่าย ไม่ได้มีอะไรที่พิศดาร เกริ่นมาก็มากแล้ว ไปลงมือทำกิมจิสูตรง่ายๆ นี้กันเลยดีกว่าค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่วนผสม กิมจิ สูตรง่ายๆ
- ผักกาดขาว 1 หัว (ประมาณ 1 กิโล)
- แครอท
- หัวไชเท้า
- ต้นหอม
- หอมใหญ่
- สาลี่
- ขิง
- กระเทียม
- แป้งข้าวเจ้า 20 g ผสมกับน้ำ 200 ml
- พริกเกาหลี 40 g
- เกลือ 20 g
- น้ำตาล 70 g
- น้ำปลา*
- น้ำบ๊วยดอง * 10 ml
* หากไม่มีไม่จำเป็นต้องใส่
วิธีทำกิมจิ
1.หั่นผักกาดขาว เป็น 2 ส่วน แช่ผักกาดขาวกับน้ำเกลือทิ้งไว้ 2 ชม. ให้ผักคายน้ำออก
2.หั่น แครอท หัวไชเท้า หอมใหญ่ สาลี ต้นหอม ให้มีขนาดเท่าๆกัน
3.โขลกหรือปั่น กระเทียมกับขิงให้เข้ากัน
- เตรียมแป้งละลายน้ำแล้วตั้งไฟอ่อน จนแป้งสุก
5.เตรียมส่วนผสมแป้งสุกที่พักจนเย็นแล้ว ใส่กระเทียมขิงที่โขลกไว้ลงไป ปรุงรสด้วย เกลือ พริกเกาหลี น้ำตาล น้ำปลา และน้ำบ๊วยดอง (แนะนำให้ชิมรสตามชอบ)
6.ใส่ผักที่หันไว้ลงไปคลุกกับแป้งที่ปรุงรสไว้แล้ว
7.ล้างผักกาดขาวด้วยน้ำเปล่าจนความเค็มหายไป
8.นำส่วนผสมที่ปรุงรสเสร็จแล้วไปคลุกกับผักกาดขาวให้ทั่ว
9.พักผักกาดขาวที่คลุกเรียบร้อยไว้ในกล่อง ทิ้งไว้ข้างนอก 6-8 ชม. ก่อนน้ำเข้าแช่ในตู้เย็น
เป็นอย่างไรคะ บอกแล้วว่าทำกิมจิไม่ได้ยากอย่างที่คิด สูตรนี้เป็นสูตรง่ายๆ ใคร ๆ ก็ทำได้ ลองทำกันดูนะคะ จะได้นั่งดูซีรีย์เกาหลีไป กินกิมจิไป ฟินเว่อไปเลยจ้า
บทความที่เกี่ยวข้อง
กิมจิ Kimchi ( 김치) คืออะไร?
กิมจิ หรือผักดองเกาหลี เป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ของชาติของชาวเกาหลี ที่ใช้ภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี ด้วยการหมักพริกสีแดงและผักต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยปกติแล้วผักที่นิยมใช้ทำนั่นก็คือ ผักกาดขาว รสชาติที่ได้มาก็จะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย
มากไปกว่านั้นหลาย ๆ ยังสามารถนำกิมจิไปปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารได้อีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดกิมจิ ข้าวต้ม ซุปกิมจิ หมูผัดกิมจิ เต้าหู้ผัดกิมจิ อุด้งผัดกิมจิ
มาม่าผัดกิมจิ จนถึงพิซซ่ากิมจิ
ประโยชน์ของ “กิมจิ” หรือ ผักดองเกาหลี
กิมจิ มีสารอาหารที่ถูกอัดแน่นในผักนานาชนิด จึงอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 6 แร่ธาตุ และกรดอะมิโน การรับประทานกิมจิในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะเป็นการช่วยปรับปรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้ในหลายส่วนของร่างกาย เช่น
-
กิมจิอุดมไปด้วยสารอาหาร
กิมจิเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย และแคลอรี่ต่ำ
เพียงแค่ผักกาดขาว ซึ่งเป็นผักหลัก ๆ ที่ใช้ทำกิมจิก็เต็มไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 6 แร่ธาตุอย่างน้อย 10 ชนิด และกรดอะมิโนมากกว่า 34 ชนิด
ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการหมักกิมจาจะช่วยเพิ่มการดูดซึมของร่างกายได้ง่ายขึ้น
2. กิมจิอุดมไปด้วยสารที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร
อย่างที่เรารู้กันว่า โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และแบคทีเรียชนิดดีอย่างแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น และมากไปกว่านั้น ระบบย่อยอาหารดี นั่นก็หมายถึง ช่วยป้องกันอาการท้องร่วง ท้องผูก และปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร
3. เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ในกิมจิมีแบคทีเรียชนิดดีอย่างแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่ช่วยส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันมีการทำงานเป็นไปอย่างเต็มที่ ซึ่งมีการทำการทดลองกันหนู โดยการฉีดแลคโตบาซิลลัสชนิด Plantarum ที่มีในกิมจิ พบว่าระดับของ Tumor necrosis factor (TNF)-alpha ที่ก่อให้เกิดความอักเสบของภายในร่างกายนั้นลดลง จึงทำให้ไม่เข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
4. ช่วยลดการอักเสบ
จากการวิจัยสารอาหารในกิมจิ พบสารประกอบชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า HDMPPA ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านการอักเสบ และบำรุงหลอดเลือดให้มีการไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
5. ช่วยชะลอความชรา
จากการศึกษาในหลอดทดลองเซลล์มนุษย์ที่ได้รับสารจากกิมจิ พบว่าสิ่งมีชีวิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งวัดสุขภาพของเซลล์โดยรวมรวมถึงแสดงช่วงชีวิตที่ยืดเยื้อโดยไม่คํานึงถึงอายุของพวกเขา
6. ช่วยลดน้ำหนัก
เนื่องจากที่รู้กันว่ากิมจิ มีส่วนผสมหลักคือ ผัก ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำมาก
จากการทดลอง ใน 22 คนที่มีน้ําหนักเกิน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการกินกิมจิสดหรือหมักช่วยลดน้ําหนักตัวดัชนีมวลกาย (BMI) และไขมันในร่างกายได้ มากไปกว่านั้นยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
7. ช่วยสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงขึ้น
จากการศึกษาผู้เข้าร่วมทดสอบ 100 คน โดยการรับประทานกิมจิเข้าไป 15-210 กรัมต่อวัน ได้ผลสรุปว่าระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหัวใจนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด
กิมจิมีข้อดีมากมายเลยใช่มั๊ยล่ะคะ เหรียญย่อมมี 2 ด้าน กิมจิก็เช่นกัน
เรามาดูกันว่ากิมจิมีข้อเสียหรือข้อควรระวังหรือไม่ ?
โดยทั่วไปความกังวลในการทานกิมจินั่นก็คือ อาจเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ
เนื่องจากอาหารหมักดอง ส่วนประกอบหลัก ๆ นั่นก็คือ เกลือ หรือโซเดียมอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้ที่รับประทานเกินกว่าปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อาจเสี่ยงที่จะได้รับความผิดปกติของกระเพาะอาหาร ลำไส้อาจแปรปรวน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้