หลังจากที่ได้เห็นคลิปเอา “ มาม่าคาโบนาร่า ” โดยการนำมาม่ามาต้มกับนม เพื่อทำเป็นคาโบนาร่าอยู่หลายคลิป ดูแล้วช่างน่ากินน่าอร่อย เราก็ได้เริ่มปฏิบัติการสะบัดฝุ่นในครัว แล้วเริ่มทำโดยบอกก่อนนะคะว่าเราจริงจังมาก ได้ลองทำหลายสูตรจากหลายๆคลิปหลายวิดีโอ แต่บางคลิปก็บอกว่ารสชาติไม่โอเคกินไม่ได้เลย เราเลยต้องมาลองทำดูเองแล้วล่ะว่ามาม่าคาโบนาร่าเป็นไปได้จริงไม่แล้วกินได้รึปล่าว ลองไปลองมาอยู่หลายสูตร ปรากฎว่าได้สูตรและมาม่าที่ลงตัวในการเอามาต้มกับนม ที่เราเองก็นำมาดัดแปลงจนได้รสชาติที่ลงตัว รับลองว่าทำตามได้ หากใครคือ Carbonara lover แล้วล่ะก็ จะได้ฟินเฟ่อไปกับคาโบนาร่ารูปแบบใหม่ๆและอร่อยด้วย สำหรับนักศึกษาที่อยู่หอพักก็สามารถทำได้ เพราะบอกเลยว่าไม่ยุ่งยาก ใช้อุปกรณ์ไม่มากมาย และเมนูนี้อาจจะตกไปเป็นเมนูประจำของนักศึกษาหอพักก็เป็นไปได้นะคะ ก่อนอื่นเลยเรามาดูกันที่ส่วนผสมกันก่อนเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่วนผสม ในการทำ มาม่าคาโบนาร่า
1. มาม่าเกาหลี 1 ห่อ
2. นม 1 กล่อง
3. ชีสมอสซาเรล่า (Mozzarella Cheese) 2 แผ่น
4. ชีสเชสด้า (Cheddar cheese) 1 แผ่น
5. เบคอน (Bacon) ใส่ได้ตามความชอบ
6. ไส้กรอก ใส่ได้ตามความชอบ
7. เห็ดชิเมจิขาว ใส่ได้ตามความชอบ
8. หอมใหญ่ ใส่ได้ตามความชอบ
9. กระเทียม ใส่ได้ตามความชอบ
แหล่งซื้อ ชีสมอสซาเรล่า (Mozzarella Cheese)

วิธีทำ มาม่าคาโบนาร่า
1.หั่นหอมใหญ่ และกระเทียม ผัดกับเนยหรือน้ำมัน จนหอมสุกใส ตอนนี้ก็กลิ่นหอมมากๆ
2.ใส่ไส้กรอก ลงไปผัด พอสุก
3.ใส่นมลงไป ในหม้อ รอจนนมเดือด
4.ใส่เส้นมาม่าลงไปต้มกับนม ตอนนี้เราสามารถใส่เครื่องมาม่า และเห็ดชิเมจิขาวลงไปต้ม พร้อมกันได้เลย
5.นำเบค่อนไปทอดจนกรอบ ไว้สำหรับโรยหน้ามาม่าคาโบนาร่า
6.หลังจากมาม่าและเห็ดสุกดีแล้ว ให้ใส่ชีส ทั้ง 2 ชนิดลงไป รอจนชีสละลาย โรยเบคอนด้านบน ก็พร้อมทานแล้วค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาลิ้มรสความอร่อยของ “มาม่าคาโบนาร่า” แล้วค่ะ
ทริกของความอร่อยคือ!!
1.ต้องเลือกเส้นมาม่าที่มีความเหนียวนุ่ม นั่นก็คือต้มแล้วเส้นไม่เละ
2.เลือกมาม่าที่มีรสเผ็ดได้จะดีมากเพราะเมื่อต้มกับนมแล้วรสชาติจะพอดี ไม่จืดหรือเลี่ยนนมเกินไป ได้อารมณ์แบบต้มยำน้ำข้น
3.ตอนใส่นม ให้ใส่แค่พอดีกับเส้น ห้ามใส่เยอะจนท่วม เพราะเครื่องปรุงมาม่าของเราจะเจือจางลง ทำให้ยังคงรักษารสชาติเข้มข้น