อาหารไทย เมนูที่ถูกปากคนไทย จนต้องแนะนำให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง

อาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอาหารไทยของเราถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เพราะว่าไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็จะมีร้านอาหารไทยประจำเมือง และหากคุณเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือนักเรียนไทยที่ต้องไปเรียนต่างประเทศ หรือคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศแล้วนั้น สิ่งที่เพื่อน ๆ ชาวต่างชาติจะเปิดประเด็นคุยกับคุณก็คงหนีไม่พ้น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย และ อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ

ถ้ามีเพื่อนชาวต่างชาติมาขอให้แนะนำอาหารไทย ที่เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วต้องลองชิมให้ได้ เพื่อนๆมีเมนูในดวงใจเมนูไหนกันบ้าง เนื่องจากอาหารไทยมีความหลากหลายเป็นอย่างมา และความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ทั้งรสชาติและวัตถุดิบก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปอีก เมื่อเจอคำถามให้แนะนำอาหารไทย จึงมีเมนูขึ้นมาในหัวเยอะแยะมาก แต่อันนี้จะขอคัดมาแบบว่าไปภาคไหนของไทยก็มีให้ลิ้มลอง หาทานได้ไม่ยาก รสชาติเป็นอะไรที่แนะนำไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน มา 15 เมนูด้วยกัน มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

15 เมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ

1. ต้มยำกุ้ง (Tom yum soup) 

ต้มยำกุ้ง (Tom yum soup) 

ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูประจำชาติไปแล้ว ใครมาก็สามารถพูดชื่อเมนูนี้กันได้ทุกคน ด้วยเป็นเมนูซีฟู้ดที่สามารถทานได้ง่ายรสชาติจัดจ้านบ่งบอกถึงความเป็นไทยด้วยเครื่องข่า ตะไคร้ ใบมะกูด พริก และมะนาว ทำให้ได้รสชาติจัดจ้านถูกปากทั้งคนไทย คนต่างชาติ และเมนูนี้หากไม่ชอบกุ้ง ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่ หรือหากไม่อยากทานเนื้อสัตว์ ก็ยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นต้มยำเห็ดก็ยังได้เลยค่ะ

สำหรับใครอยากทำตามก็บอกเลยว่าไม่ยาก 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  1. กุ้งแม่น้ำ 500 กรัม
  2. น้ำ 600 กรัม
  3. ตะไคร้ 30 กรัม
  4. ข่า 20 กรัม
  5. รากผักชี 5 กรัม
  6. ใบมะกรูด 3 กรัม
  7. พริกขี้หนูสวน 10 กรัม
  8. เห็ดฟาง 100 กรัม
  9. น้ำปลา 40 กรัม
  10. น้ำตาลทราย 1 กรัม
  11. น้ำมะนาว 40 กรัม
  12. น้ำมัน 15 กรัม
  13. ผักชี 5 กรัม

วิธีทำ

  1. แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลัง เก็บเปลือกและมันกุ้งไว้ (มันกุ้งให้ความอร่อยในการกิน)
  2. เตรียมน้ำสต๊อกกุ้งโดยใส่เปลือกกุ้งลงในหม้อ เติมน้ำและต้มจนเดือด (ต้มประมาณ 10 นาที จากนั้นกรองเปลือกออก)
  3. ผัดมันกุ้งกับน้ำมันด้วยไฟอ่อน ๆ จนหอม พักทิ้งไว้
  4. ต้มน้ำสต๊อกกุ้งให้เดือด ใส่ตะไคร้ ข่า และรากผักชี ต้มจนได้กลิ่นหอมของเครื่องปรุง
  5. ใส่มันกุ้งผัด เนื้อกุ้ง เห็ดฟาง น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกขี้หนู และใบมะกรูด เมื่อกุ้งสุกปิดไฟ (อย่าใช้เวลานานนัก เพราะกุ้งอาจจะแข็งได้) ใส่น้ำมะนาว ตกแต่งด้วยผักชี

 

  1. ผัดไทย (Pad Thai) 

ผัดไทย (Pad Thai) อาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ

ผัดไทยเป็นอาหารจานเดียวที่สามารถเจอได้ทุกหัวมุมเมืองในไทย ไม่ว่าจะที่ท่องเที่ยว ตลาด หรือแม้แต่ร้านอาหารก็มีเมนูผัดไทยให้สั่งมาลองลิ้มชิมรสกันได้ ผัดไทยเป็นเมนูเส้นที่มีการปรุงรสกลมกล่อมลงตัวด้วย ถั่วป่น พริก มะนาว กุ้งแห้ง เต้าหู้ทอด ถั่วงอก และใบกุยช่าย รับประทานง่าย 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  1. ซอสผัดไทย
  2. กุ้งสด (แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก) 3-5 ตัว
  3. ​เต้าหู้เหลือง (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
  4. ไชโป๊ (สับละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ​ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเส้นจันท์ แช่น้ำจนนิ่ม
  6. ถั่วงอกดิบ
  7. ใบกุยช่าย (หั่นท่อน)
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
  10. ถั่วลิสงคั่วบด (ตามชอบ)

ส่วนผสมซอสผัดไทย 

  1. ​น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ​พริกป่น ตามความเผ็ดตามชอบ

วิธีทำซอสผัดไทย

  1. ​ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และพริกป่นเข้าด้วยกัน
  2. นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน และน้ำตาลปี๊บละลายเตรียมไว้ 

สำหรับซอสผัดไทยสามารถเก็บไว้ได้นาน ดังนั้นหากใครต้องการจะทำไว้เพื่อใช้ในการผัดครั้งต่อไป ก็สามารถเพิ่มอัตราส่วนได้ แล้วเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดในตู้เย็น

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่กุ้งสดลงไปผัดให้โดนความร้อนจนกุ้งเริ่มสุกประมาณ 80% ตักขึ้นใส่จานเตรียมไว้
  2. ใส่เต้าหู้ลงไปผัดในกระทะใบเดิมพอให้สีเต้าหู้พอเหลืองหอม ตามด้วยไชโป๊สับ ผัดพอเข้ากัน ใส่น้ำซอสผัดไทยที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนเริ่มเดือด
  3. ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่แช่น้ำแล้วลงไปผัดให้เข้ากันเบา ๆ หากต้องการให้เส้นมีความชุ่มน้ำผัดไทยก็สามารถเพิ่มซอสลงไปได้
  4. ตอกไข่ไก่ลงไป ยีไข่ให้พอแตก รอจนไข่เริ่มสุกแล้วนำส่วนผสมเส้นมาผัดให้เข้ากัน ตามด้วยกุ้งที่เตรียมไว้ และถั่วงอก
  5. ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผัดสด ถั่วลิสงคั่วบด พริกป่น และมะนาว

 

  1. ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (Chicken and cashew nut stir-fry) 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (Chicken and cashew nut stir-fry) 

เป็นเมนูที่ไม่ได้อยู่ในหัวเลย แต่จำได้ว่าเพื่อนชาวต่างชาติชอบทานชอบเมนูนี้มาก เลยใส่มาในเมนูแนะนำด้วย เพราะเป็นอาหารรสไม่จัดทานง่าย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ใส่มาก็เข้ากันได้ดี 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  1. อกไก่  300 กรัม
  2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 1/2 ถ้วย
  3. ต้นหอม 2 ต้น
  4. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด 
  5. เห็ดฟาง ตามปริมาณที่ชอบ
  6. พริกชี้ฟ้าสีแดง 2 เม็ด
  7. น้ำมันหอย 2 ชต.
  8. ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
  9. น้ำตาลทราย 1 1/4 ชต.
  10. น้ำมันงา 1/2 ชต.
  11. กระเทียมไทย 1 หัว
  12. แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
  13. พริกไทยป่น 1/2 ชช.
  14. เกลือป่นธรรมดา 1/4 ชช.
  15. น้ำสะอาด 1/2 ชช.

วิธีทำ

  1. นำไก่มาคลุกกับพริกไทย เกลือป่น แป้งสาลี และน้ำสะอาดเล็กน้อย 
  2. นำไก่ที่คลุกเรียบร้อยแล้วมาทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด จนไก่เหลือง กรอบ
  3. นำพริกแห้งเม็ดใหญ่ และมะม่วงหิมพานต์มาทอดจนกรอบ
  4. ผสมน้ำปรุง โดยนำน้ำมันหอย  ซีอิ๊วขาว  น้ำตาลทราย และน้ำมันงา มาคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. เริ่มการผัด โดยการนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองหอม จากนั้นใส่เห็ดฟาง ผัดให้เข้ากัน
  6. นำไก่ มะม่วงหิมพานต์ ลงกระทะ ผัดให้เข้ากัน
  7. นำน้ำปรุงที่ผสมไว้มาลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน ทิ้งระยะสักพักนึง จนให้น้ำตาลเหนียว เริ่มแห้ง
  8. ใส่พริกแห้ง  ต้นหอม  พริกชี้ฟ้า ลงผัด 2-3 ทีให้เข้ากันดี  ก็ปิดไฟ  จัดจานเสิร์ฟ

4. ส้มตำ (THAI PAPAYA SALAD or SOM TUM ) 

ส้มตำ (THAI PAPAYA SALAD or SOM TUM ) 

นอกจากเป็นเมนูโปรดของสาวๆแล้ว เราคิดว่าเมนูส้มตำก็เป็นอีกเมนูอร่อยน่าลองมีความเป็นไทยคือรสชาติจัด แซ่บนัว ใครได้ลองจะต้องติดใจ

ส่วนผสม 

  1. เส้นมะละกอดิบ 1 ถ้วยตวง
  2. เส้นแครอท 1 หยิบมือ
  3. ถั่วฝักยาว 1 เส้น นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเขือเทศ 1 ลูก นำมาหั่นเป็นชิ้น
  8. กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต้ะ
  9. ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต้ะ
  10. พริกขี้หนู 3 เม็ด
  11. กระเทียม 3 กลีบ

ส่วนผสมต่าง ๆ สามารถปรับปริมาณได้ตามใจชอบ

วิธีทำส้มตำไทย

  1. เริ่มจาก โขลกกระเทียมและพริก ให้ละเอียดก่อน
  2. จากนั้น โขลกกุ้งแห้งให้แหลก ตามด้วยถั่วลงสงคั่ว
  3. ใส่ถั่วฝักยาวลงไป โขลกพอบุบ 
  4. ปรุงรสด้วยการใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาว ให้คลุกเคล้าให้เครื่องปรุงละลายเข้ากัน
  5. ขั้นตอนสุดท้ายใส่ มะเขือเทศหั่น เส้นมะละกอและเส้นแครอท ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำยำ และจัดจานเสิร์ฟ พร้อมด้วยผักสดที่ชื่นชอบ
  1. ลาบ (Thai Larb) 

ลาบ (Thai Larb)  อาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ

เมื่อนำเสนอส้มตำไปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ลาบ ซึ่งลาบสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล หรือมังสวิรัติก็ทานได้ รสชาติเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม ทานง่าย 

ส่วนผสม 

  1.  ​หมูสับรวน
  2. ​​ ตับหมูต้ม 50 กรัม (ต้มแค่พอสุกนุ่ม ไม่แข็งแห้ง)
  3. ​​ ​น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ​​ ​น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  5. ​​ พริกป่นตามชอบ
  6. ​​ ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ​​  หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  8. ​​ ​ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  9. ​​  ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ (แบ่งไว้โรยหน้าตอนเสิร์ฟเล็กน้อย)
  10. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบหมู

  1. ​​นำหมูสับ 100 กรัม ผสมน้ำเปล่า 7 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนชา แล้วนำไปรวนพอสุก
  2. นำหมูรวนและตับใส่ในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น และข้าวคั่วคลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  3. จากนั้นตามด้วยหอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบมะกรูดซอยคลุกเคล้าเบา ๆ อีกครั้ง

 

  1. มัสมั่น (Thai massaman curry)

มัสมั่น (Thai massaman curry)

อันนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูระดับชาติอยู่แล้ว สมกับกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ฝันหา”  แต่จะหาทานให้อร่อย ก็โอกาสมาไทยเนี่ยแหละ รับลองเครื่องแกงหอมๆ กะทิสดเน้น ๆ เนื้อสัตว์เคี่ยวมาอย่างดี ซึ่งเนื้อที่นิยมนำมาปรุง ก็มีทั้งไก่ เนื้อวัว

ส่วนผสม 

  1. หัวกะทิ 2 ถ้วย
  2. น้ำพริกแกงมัสมั่น
  3.  เม็ดกระวาน 5 เม็ด
  4. หางกะทิ 4 ถ้วย
  5. เนื้อวัวหั่นเต๋า ½ กิโลกรัม (สามารถใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะได้)
  6. มะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ (ช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้น)
  7. ใบกระวาน 3 – 4 ใบ
  8. น้ำปลา 1/2 ถ้วย
  9. น้ำตาลปี๊บ 220 กรัม (สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้)
  10. มันฝรั่ง 1 หัว(ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ นำไปแช่น้ำเย็นจัด)
  11. หอมใหญ่ 1 หัว (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
  12. ถั่วลิสงคั่ว (ใหม่ ๆ) 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1.  ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ผัดจนเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น และเม็ดกระวานลงไป ผัดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับหัวกะทิ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้
  2. ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือดเล็กน้อย (ไม่ต้องเดือดจนเกินไป) ใส่เนื้อสัตว์ ตามด้วยมะขามเปียกลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนจนเดือด ประมาณ 30 นาที (ไม่ต้องคน)
  3. ใส่น้ำพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อ คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน โรยใบกระวานลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 40-45 นาที
  4. ใส่มันฝรั่งลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที
  5. ใส่หอมใหญ่ลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
  6.  ใส่หัวกะทิที่เหลือลงต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
  7. ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มต่ออีก 10 นาที จัดจานพร้อมเสิร์ฟ

7. ปูผัดผงกระหรี่ (Stir-Fried Crab in Curry Powder) 

ปูผัดผงกระหรี่ (Stir-Fried Crab in Curry Powder) อาหารไทย 

เมนูซีฟู้ด อีกเมนูที่ห้ามพลาด คือจะยังไงก็ต้องลอง รสชาติไม่เผ็ดมากกินง่ายความ กลมกล่อมจากผงกระหรี่ หอมใหญ่ กระเทียม เข้ากันได้ดีมากๆกับปู อร่อยแน่นอนไม่ผิดหวัง

ส่วนผสม 

  1. ปูทะเล (ปูเนื้อ)
  2. ผงกะหรี่
  3. ไข่ไก่
  4. กระเทียมสับ
  5. พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว
  6. น้ำมันพริกเผา
  7. นมสด (รสจืด)
  8. ซอสหอยนางรม
  9. ซอสปรุงรสฝาเขียว
  10. น้ำตาลทราย
  11. หอมใหญ่
  12. ต้มหอมหั่นท่อน
  13. ขึ้นฉ่าย

วิธีทำ

  1. นำปู มาล้างทำความสะอาด โดยการนำไปต้มกับน้ำให้สุกเล็กน้อย แกะกระดอง และหั่นพักไว้
  2. เตรียมถ้วย ตอกไข่ไก่ผสมกับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสฝาเขียว  และน้ำตาล  เติมนมสด พริกสดซอย และผงกะหรี่ คนให้เข้ากัน
  3. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพริกเผาลงไป ใส่กระเทียม หอมใหญ่ลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยปูที่หั่นไว้
  4. นำถ้วยที่มีส่วนผสม มาเทใส่ในกระทะ ผัดให้เข้ากัน (ชิมรสตามชอบ)เติมขึ้นฉ่าย ต้มหอม ผัดอีกนิด จัดจานพร้อมเสิร์ฟ
  1. พะแนง (Panang curry) 

พะแนง (Panang curry) แนะนำให้ชาวต่างชาติ

อาหารไทยพื้นบ้านเมนูนี้ รสชาติกลมกล่อมด้วยความหวานจากกะทิสด และหอมละมุนจากพริกแกง ซึ่งบอกเลยว่าถูกปากต่างชาติไม่แพ้มัสมั่น นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ แล้วน่าจะติดอกติดใต ส่วนเนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ก็เปลี่ยนได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ เนื้อ หรือคนทานอาหารเจก็อาจใช้เต้าหู้แทนได้ 

ส่วนผสม 

  1. พริกแกงพะแนง  4 ช้อนโต๊ะ
  2. หมูสันนอกหั่น  500 กรัม
  3. พริกขี้หนูเอาเม็ดออกซอย 5-7 เม็ด 
  4. ใบมะกรูดซอย 
  5. ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  6. กะทิ 1 ถ้วยตวง
  7. น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. นำพริกแกงผัดกับน้ำมัน บนไฟกลาง ให้สุก
  2. ใส่กะทิ เคี่ยวจนกะทิแตกมัน แล้วจึงใส่หมู
  3. พอหมูสุกดี ใส่ถั่วลิสงคั่ว ใบมะกรูดซอย. 
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป 
  5. จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อย แล้วเคียวจนมีน้ำมันออกมาค่ะ
  6. ตักจัดจานพร้อมเสิร์ฟ

 

  1. ข้าวผัดไข่ (Egg Fried Rice)  

ข้าวผัดไข่ (Egg Fried Rice)

ข้าวผัดไข่ เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่อร่อยจนหยุดไม่ได้  เพราะรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมหอมอร่อย

ส่วนผสม 

  1. น้ำมันพืช  2 ช้อนโต๊ะ
  2. ไข่ไก่  2 ฟอง
  3. ข้าวสวย  300 กรัม (ควรหุงข้างคืน)
  4. ซอสปรุงรส  3 ช้อนโต๊ะ
  5. ต้นหอมซอย
  6. กระเทียมสับ (ไม่ใส่ก็ได้)
  7.  น้ำตาลทรายเล็กน้อย
  8. พริกไทย

วิธีทำ

  1. นำกระทะตั้งไฟกลางใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม
  2. ตอกไข่ไก่ลงกระทะ ยีไข่ๆให้แตกพอสุก
  3. ใส่ข้าวสวย ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ และน้ำตาลผัดให้เข้ากันด้วยไฟแรง
  4. โรยต้นหอม ผัดต่อเล็กน้อยให้เข้ากัน
  5. ตักข้าวผัดใส่จาน ตบแต่งด้วยเครื่องเคียง พร้อมเสิร์ฟได้
  1. ผัดกะเพรา (Stir fried basil with minced pork) 

ผัดกะเพราอาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ

ใครว่าเมนูผัดกะเพราเป็นเมนูสิ้นคิด ใช่เลยไม่ต้องคิดเพราะสั่งทุกครั้งอร่อยทุกครั้ง คือความ พริกกะเพราทำให้รสชาติเผ็ดร้อนกินแล้วไม่เลี่ยน กลิ่นหอมคือทำให้เจริญอาหารเข้าไปอีก เป็นเมนูหาทานง่าย มาไทยยังไงก็ต้องลอง

ส่วนผสม 

  1. หมูสับ 300 กรัม
  2. ใบกะเพรา 50 กรัม
  3. พริกแดงจินดา 1 ช้อนโต๊ะ
  4. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 
  7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  8. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอร้อน แล้วใส่กระเทียม และพริกแดงจินดาลงไปผัดจนกลิ่นหอม 
  2. จากนั้นใส่หมูสับลงไปผัด
  3. เมื่อหมูเริ่มสุกให้ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดจนทุกอย่างเข้ากันดี 
  4. จากนั้นใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้สลดลงเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟได้

11. ทอดมันปลา (Thai fish cakes)

อีกหนึ่งเมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ ที่เรียกว่ารสชาติกลมกล่อม คนที่ไม่ชอบทานอาหารทะเล ทานทอดมันปลาไทย แล้วลืมความไม่ชอบปลาไปได้เลย เพราะอร่อย รสดี ไม่เผ็ดมากไป

ทอดมันปลา (Thai fish cakes)

ส่วนผสม 

  1. ปลาสด 300 กรัม (สับละเอียด)
  2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  3. เครื่องแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ถั่วฝักยาวซอยละเอียด  ปริมาณตามชอบ
  5. ใบมะกรูดซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ
  6. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  7. น้ำปลา 2  ช้อนชา
  8. น้ำมันพืช. 1/2 กก (สำหรับทอด)

วิธีทำ

  1. นำปลาสดสับละเลียดแช่แข็ง พอให้เนื้อเป็นน้ำแข็งเล็กน้อย มาปั่นจนเนื้อฟู
  2. นำเนื้อปลามาคลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องแกง น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
  3. ใส่ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด คลุกเคล้าให้เข้ากับปลา
  4. นำปลาที่ได้แล้วพักในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนำมาทอด

 

  1. กล้วยทอด ( Thai Banana fritter) 

กล้วยทอด ( Thai Banana fritter) อาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ 

เป็นเมนูที่มีทุกภาคในไทย และคิดว่าคงจะหาทานที่อื่นไม่ได้แล้ว คือแป้งที่ทอดหอม ๆ กรอบ ๆ ทำให้การกินกล้วยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เลยคิดว่าเป็นอีกเมนูที่แนะนำให้ลองเมื่อมาไทย

ส่วนผสม 

  1. กล้วยน้ำว้าสุกห่าม ๆ (สีเหลืองปนเขียว) 1 หวี
  2. แป้งทอดกรอบ 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
  5. หัวกะทิ 140 กรัม(คั้นโดยผสมน้ำนิดหน่อย)
  6. เนื้อมะพร้าวขูด(เหลือจากคั้นกะทิ) 50 กรัม
  7. งาขาว (ดิบ) 25 กรัม
  8. เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. นำแป้งทอดกรอบ และหัวกะทิ ใส่ลงในโถผสม คนให้พอเข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี จนแป้งเนื้อเดียวกัน 
  2. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
  3. จากนั้นใส่เนื้อมะพร้าวขูด และงาขาวลงไป ผสมให้เข้ากันดี จนน้ำตาลทรายละลายหมด
  4. นำกล้วยน้ำว้ามาปอกเปลือกและหั่นเป็นแนวยาว
  5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลาง นำกล้วยมาชุบแป้ง แล้วนำลงไปทอดในน้ำที่ร้อน 
  6. คอยตะล่อมกล้วยทอดเป็นระยะ เพื่อให้กล้วยเป็นสีเสมอกัน และไม่ไหม้
  7. พอกล้วยเริ่มเป็นสีเหลืองตามต้องการ ให้นำขึ้นจากกระทะ มาพักสะเด็ดน้ำมัน

 

13. บัวลอย (Bua Loy or Thai Glutinous Rice Balls)

บัวลอย อาหารไทย แนะนำให้ชาวต่างชาติ

คล้ายๆว่าบัวลอยจะเป็นอาหารรอบดึกของใครหลายๆคน มักจะขายตามตลาดโต้รุ้ง และที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืน เป็นเมนูของหวานนำกะทิ สไตล์ขนมไทย และแป้งนุ่มๆทำให้ทานได้ง่าย จึงอยากแนะนำให้ลอง

ส่วนผสม 

  1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  2. หางกะทิ 1/2 ถ้วย
  3. หัวกะทิ 3 ถ้วย
  4. น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 1+1/2 ช้อนชา

วิธีทำ บัวลอย

  1. ผสมแป้งข้าวเหนียวผสมกับหางกะทิ โดยค่อย ๆ เติมหางกะทิลงไป นวดไปเรื่อย ๆ จนแป้งจับตัวเป็นก้อน โดยหากต้องการให้แป้งมีสีก็สามารถแต่งเติมไปได้
  • สีเขียวเปลี่ยนจากหางกะทิ เป็นน้ำใบเตย 
  • สีม่วงเป็นน้ำดอกอัญชัน
  • สีส้มเป็นเนื้อฟักทอง  ในปริมาณ 1/2 ถ้วยเท่ากัน
  1. จากนั้นแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นเม็ดกลมเล็กๆ นำไปต้มในน้ำร้อน (ที่ไม่เดือด) จนแป้งสุกและลอยขึ้นมา ตักขึ้นมาใส่ชามที่มีน้ำพักไว้
  2. ตั้งหม้อโดยใช้ไฟอ่อน เติมหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันจนกะทิเริ่มเดือด
  3. ตักกะทิไปราดในบัวลอยที่ใส่ถ้วยเตรียมไว้ 

หากต้องการเพิ่มความอร่อยด้วยไข่ หรือไข่เค็ม ก็สามารถเพิ่มอรรถรสได้ 

รีวิวร้านบัวลอย

14. ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango sticky rice) 

ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango sticky rice) 

เมนูนี้อาจจะมีตามฤดูกาลสักหน่อยถ้าจะให้ได้มะม่วงที่หวานอร่อย แต่ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวเหนียวที่มูนกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ รสชาติอร่อยกลมกล่อม รับลองไม่มีที่ไหน ยังไงก็ต้องลอง

ส่วนผสม 

  1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 3 ถ้วย
  2. หัวกะทิ 75 มิลลิลิตร
  3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  4. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  5. มะม่วงสุก 1 ลูก
  6. ใบเตย 3 ใบ ม้วนให้เป็นชิ้นเดียวกัน
  7. สำหรับหุงกับข้าว
  8. ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุกแล้วคั่วสำหรับโรยหน้าข้าวเหนียว

ส่วนผสมกะทิราดหน้า

  1. หัวกะทิ 50 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. แป้งข้าวจ้าว 1 ช้อนชา

วิธีทำ 

  1. นำข้าวเหนียวซาวน้ำจนน้ำข้าวใส แช่น้ำทิ้งไว้ 5 ชม. เทน้ำทิ้งแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. ต้มน้ำใส่หม้อพอน้ำเดือดใส่ใบเตย นำข้าวเหนียวใส่หวดนึ่งในน้ำเดือดนาน 10 นาที พอครบเวลาพลิกกลับด้านข้าวเหนียวแล้วนึ่งต่ออีก 10 นาที
  3. ใส่หัวกะทิ น้ำตาล เกลือและใบเตยลงในหม้อตั้งไฟอ่อน คนตลอดเวลาให้น้ำตาลละลาย พอกะทิเริ่มเดือดให้ปิดไฟ จากนั้นนำกะทิมาผสมกับข้าวเหนียวเกลี่ยเมล็ดข้าวแล้วคนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นคนข้าวด้านล่างขึ้นมาด้านบนแล้วปิดฝาไว้อีก 10 นาที จะสังเกตเห็นได้ว่าเมล็ดข้าวจะขึ้นเงาสวยงามพร้อมรับประทาน
  4. ทำน้ำกะทิราด โดยนำหัวกะทิตั้งไฟอ่อน จากนั้นเติมน้ำตาลทราย เกลือ แป้งข้าวจ้าว จนละลายเป็นเนื้อเดิมกัน พอเดือดปิดไฟทันที 
  5. จัดจานข้าวเหนียวมะม่วงจานนี้ให้อร่อยโดยการโรยถั่วซีกที่อบมาใหม่ ๆ จะให้ความกรุบกรอบ

 

15. น้ำแตงโมปั่น (watermelon Smoothie) 

น้ำแตงโมปั่น (watermelon Smoothie) 

ใครจะรู้ว่าน้ำแตงโมงปั่นกับอากาศร้อน ๆ ที่บ้านเรามันเข้ากันขนาดไหน เอาแตงโมสีแดงหวาน ๆ มาปั่นกับน้ำแข็ง เวลากินก็จะหวาน หอม อร่อยสดชื่นสุด ๆ 

ส่วนผสม

  1. แตงโม 1 ลูก
  2. น้ำเชื่อม1/4 ถ้วยตวง
  3. น้ำแข็ง 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกแตงโม นำเมล็ดแตงโมออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  2. นำแตงโมที่หั่นไว้ น้ำเชื่อม น้ำแข็งทั้งหมดลงโถปั่น แล้วปั่นที่ความเร็วต่ำให้ส่วนผสมและน้ำแข็งพอเข้ากัน จากนั้นเพิ่มเป็นความเร็วสูงสุด ปั่นให้เนื้อเดียวกัน
  3. เทน้ำแตงโมที่ปั่นไว้ลงแก้ว จัดเสิร์ฟใส่แก้ว 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 15 เมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ เรียกว่าหาทานไม่ยากเลย และหากจะโชว์ฝีไม้ลายมือในการทำก็ทำตามไม่อยากเกินความสามารถใช่มั๊ยล่ะคะ

บทความที่น่าสนใจ