อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอาหารไทยของเราถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เพราะว่าไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็จะมีร้านอาหารไทยประจำเมือง และหากคุณเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือนักเรียนไทยที่ต้องไปเรียนต่างประเทศ หรือคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศแล้วนั้น สิ่งที่เพื่อน ๆ ชาวต่างชาติจะเปิดประเด็นคุยกับคุณก็คงหนีไม่พ้น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย และ อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ
ถ้ามีเพื่อนชาวต่างชาติมาขอให้แนะนำอาหารไทย ที่เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วต้องลองชิมให้ได้ เพื่อนๆมีเมนูในดวงใจเมนูไหนกันบ้าง เนื่องจากอาหารไทยมีความหลากหลายเป็นอย่างมา และความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ทั้งรสชาติและวัตถุดิบก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปอีก เมื่อเจอคำถามให้แนะนำอาหารไทย จึงมีเมนูขึ้นมาในหัวเยอะแยะมาก แต่อันนี้จะขอคัดมาแบบว่าไปภาคไหนของไทยก็มีให้ลิ้มลอง หาทานได้ไม่ยาก รสชาติเป็นอะไรที่แนะนำไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน มา 15 เมนูด้วยกัน มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
15 เมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ
1. ต้มยำกุ้ง (Tom yum soup)
ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูประจำชาติไปแล้ว ใครมาก็สามารถพูดชื่อเมนูนี้กันได้ทุกคน ด้วยเป็นเมนูซีฟู้ดที่สามารถทานได้ง่ายรสชาติจัดจ้านบ่งบอกถึงความเป็นไทยด้วยเครื่องข่า ตะไคร้ ใบมะกูด พริก และมะนาว ทำให้ได้รสชาติจัดจ้านถูกปากทั้งคนไทย คนต่างชาติ และเมนูนี้หากไม่ชอบกุ้ง ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่ หรือหากไม่อยากทานเนื้อสัตว์ ก็ยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นต้มยำเห็ดก็ยังได้เลยค่ะ
สำหรับใครอยากทำตามก็บอกเลยว่าไม่ยาก
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
- กุ้งแม่น้ำ 500 กรัม
- น้ำ 600 กรัม
- ตะไคร้ 30 กรัม
- ข่า 20 กรัม
- รากผักชี 5 กรัม
- ใบมะกรูด 3 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 10 กรัม
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- น้ำปลา 40 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 กรัม
- น้ำมะนาว 40 กรัม
- น้ำมัน 15 กรัม
- ผักชี 5 กรัม
วิธีทำ
- แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลัง เก็บเปลือกและมันกุ้งไว้ (มันกุ้งให้ความอร่อยในการกิน)
- เตรียมน้ำสต๊อกกุ้งโดยใส่เปลือกกุ้งลงในหม้อ เติมน้ำและต้มจนเดือด (ต้มประมาณ 10 นาที จากนั้นกรองเปลือกออก)
- ผัดมันกุ้งกับน้ำมันด้วยไฟอ่อน ๆ จนหอม พักทิ้งไว้
- ต้มน้ำสต๊อกกุ้งให้เดือด ใส่ตะไคร้ ข่า และรากผักชี ต้มจนได้กลิ่นหอมของเครื่องปรุง
- ใส่มันกุ้งผัด เนื้อกุ้ง เห็ดฟาง น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกขี้หนู และใบมะกรูด เมื่อกุ้งสุกปิดไฟ (อย่าใช้เวลานานนัก เพราะกุ้งอาจจะแข็งได้) ใส่น้ำมะนาว ตกแต่งด้วยผักชี
-
ผัดไทย (Pad Thai)
ผัดไทยเป็นอาหารจานเดียวที่สามารถเจอได้ทุกหัวมุมเมืองในไทย ไม่ว่าจะที่ท่องเที่ยว ตลาด หรือแม้แต่ร้านอาหารก็มีเมนูผัดไทยให้สั่งมาลองลิ้มชิมรสกันได้ ผัดไทยเป็นเมนูเส้นที่มีการปรุงรสกลมกล่อมลงตัวด้วย ถั่วป่น พริก มะนาว กุ้งแห้ง เต้าหู้ทอด ถั่วงอก และใบกุยช่าย รับประทานง่าย
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
- ซอสผัดไทย
- กุ้งสด (แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก) 3-5 ตัว
- เต้าหู้เหลือง (หั่นเต๋า) 3 ช้อนโต๊ะ
- ไชโป๊ (สับละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเส้นจันท์ แช่น้ำจนนิ่ม
- ถั่วงอกดิบ
- ใบกุยช่าย (หั่นท่อน)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
- ถั่วลิสงคั่วบด (ตามชอบ)
ส่วนผสมซอสผัดไทย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น ตามความเผ็ดตามชอบ
วิธีทำซอสผัดไทย
- ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และพริกป่นเข้าด้วยกัน
- นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน และน้ำตาลปี๊บละลายเตรียมไว้
สำหรับซอสผัดไทยสามารถเก็บไว้ได้นาน ดังนั้นหากใครต้องการจะทำไว้เพื่อใช้ในการผัดครั้งต่อไป ก็สามารถเพิ่มอัตราส่วนได้ แล้วเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดในตู้เย็น
วิธีทำ
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่กุ้งสดลงไปผัดให้โดนความร้อนจนกุ้งเริ่มสุกประมาณ 80% ตักขึ้นใส่จานเตรียมไว้
- ใส่เต้าหู้ลงไปผัดในกระทะใบเดิมพอให้สีเต้าหู้พอเหลืองหอม ตามด้วยไชโป๊สับ ผัดพอเข้ากัน ใส่น้ำซอสผัดไทยที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนเริ่มเดือด
- ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่แช่น้ำแล้วลงไปผัดให้เข้ากันเบา ๆ หากต้องการให้เส้นมีความชุ่มน้ำผัดไทยก็สามารถเพิ่มซอสลงไปได้
- ตอกไข่ไก่ลงไป ยีไข่ให้พอแตก รอจนไข่เริ่มสุกแล้วนำส่วนผสมเส้นมาผัดให้เข้ากัน ตามด้วยกุ้งที่เตรียมไว้ และถั่วงอก
- ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผัดสด ถั่วลิสงคั่วบด พริกป่น และมะนาว
-
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (Chicken and cashew nut stir-fry)
เป็นเมนูที่ไม่ได้อยู่ในหัวเลย แต่จำได้ว่าเพื่อนชาวต่างชาติชอบทานชอบเมนูนี้มาก เลยใส่มาในเมนูแนะนำด้วย เพราะเป็นอาหารรสไม่จัดทานง่าย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ใส่มาก็เข้ากันได้ดี
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
- อกไก่ 300 กรัม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 1/2 ถ้วย
- ต้นหอม 2 ต้น
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด
- เห็ดฟาง ตามปริมาณที่ชอบ
- พริกชี้ฟ้าสีแดง 2 เม็ด
- น้ำมันหอย 2 ชต.
- ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
- น้ำตาลทราย 1 1/4 ชต.
- น้ำมันงา 1/2 ชต.
- กระเทียมไทย 1 หัว
- แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
- พริกไทยป่น 1/2 ชช.
- เกลือป่นธรรมดา 1/4 ชช.
- น้ำสะอาด 1/2 ชช.
วิธีทำ
- นำไก่มาคลุกกับพริกไทย เกลือป่น แป้งสาลี และน้ำสะอาดเล็กน้อย
- นำไก่ที่คลุกเรียบร้อยแล้วมาทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด จนไก่เหลือง กรอบ
- นำพริกแห้งเม็ดใหญ่ และมะม่วงหิมพานต์มาทอดจนกรอบ
- ผสมน้ำปรุง โดยนำน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันงา มาคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เริ่มการผัด โดยการนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองหอม จากนั้นใส่เห็ดฟาง ผัดให้เข้ากัน
- นำไก่ มะม่วงหิมพานต์ ลงกระทะ ผัดให้เข้ากัน
- นำน้ำปรุงที่ผสมไว้มาลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน ทิ้งระยะสักพักนึง จนให้น้ำตาลเหนียว เริ่มแห้ง
- ใส่พริกแห้ง ต้นหอม พริกชี้ฟ้า ลงผัด 2-3 ทีให้เข้ากันดี ก็ปิดไฟ จัดจานเสิร์ฟ
4. ส้มตำ (THAI PAPAYA SALAD or SOM TUM )
นอกจากเป็นเมนูโปรดของสาวๆแล้ว เราคิดว่าเมนูส้มตำก็เป็นอีกเมนูอร่อยน่าลองมีความเป็นไทยคือรสชาติจัด แซ่บนัว ใครได้ลองจะต้องติดใจ
ส่วนผสม
- เส้นมะละกอดิบ 1 ถ้วยตวง
- เส้นแครอท 1 หยิบมือ
- ถั่วฝักยาว 1 เส้น นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศ 1 ลูก นำมาหั่นเป็นชิ้น
- กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต้ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต้ะ
- พริกขี้หนู 3 เม็ด
- กระเทียม 3 กลีบ
ส่วนผสมต่าง ๆ สามารถปรับปริมาณได้ตามใจชอบ
วิธีทำส้มตำไทย
- เริ่มจาก โขลกกระเทียมและพริก ให้ละเอียดก่อน
- จากนั้น โขลกกุ้งแห้งให้แหลก ตามด้วยถั่วลงสงคั่ว
- ใส่ถั่วฝักยาวลงไป โขลกพอบุบ
- ปรุงรสด้วยการใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาว ให้คลุกเคล้าให้เครื่องปรุงละลายเข้ากัน
- ขั้นตอนสุดท้ายใส่ มะเขือเทศหั่น เส้นมะละกอและเส้นแครอท ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำยำ และจัดจานเสิร์ฟ พร้อมด้วยผักสดที่ชื่นชอบ
-
ลาบ (Thai Larb)
เมื่อนำเสนอส้มตำไปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ลาบ ซึ่งลาบสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล หรือมังสวิรัติก็ทานได้ รสชาติเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม ทานง่าย
ส่วนผสม
- หมูสับรวน
- ตับหมูต้ม 50 กรัม (ต้มแค่พอสุกนุ่ม ไม่แข็งแห้ง)
- น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกป่นตามชอบ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ (แบ่งไว้โรยหน้าตอนเสิร์ฟเล็กน้อย)
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำลาบหมู
- นำหมูสับ 100 กรัม ผสมน้ำเปล่า 7 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนชา แล้วนำไปรวนพอสุก
- นำหมูรวนและตับใส่ในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น และข้าวคั่วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- จากนั้นตามด้วยหอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบมะกรูดซอยคลุกเคล้าเบา ๆ อีกครั้ง
-
มัสมั่น (Thai massaman curry)
อันนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูระดับชาติอยู่แล้ว สมกับกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ฝันหา” แต่จะหาทานให้อร่อย ก็โอกาสมาไทยเนี่ยแหละ รับลองเครื่องแกงหอมๆ กะทิสดเน้น ๆ เนื้อสัตว์เคี่ยวมาอย่างดี ซึ่งเนื้อที่นิยมนำมาปรุง ก็มีทั้งไก่ เนื้อวัว
ส่วนผสม
- หัวกะทิ 2 ถ้วย
- น้ำพริกแกงมัสมั่น
- เม็ดกระวาน 5 เม็ด
- หางกะทิ 4 ถ้วย
- เนื้อวัวหั่นเต๋า ½ กิโลกรัม (สามารถใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะได้)
- มะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ (ช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้น)
- ใบกระวาน 3 – 4 ใบ
- น้ำปลา 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 220 กรัม (สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้)
- มันฝรั่ง 1 หัว(ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ นำไปแช่น้ำเย็นจัด)
- หอมใหญ่ 1 หัว (ปอกเปลือกออก นำไปล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
- ถั่วลิสงคั่ว (ใหม่ ๆ) 1 ถ้วย
วิธีทำ
- ใส่หัวกะทิครึ่งหนึ่งลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ผัดจนเดือด (แต่ไม่ต้องแตกมัน) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น และเม็ดกระวานลงไป ผัดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับหัวกะทิ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้
- ใส่หางกะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือดเล็กน้อย (ไม่ต้องเดือดจนเกินไป) ใส่เนื้อสัตว์ ตามด้วยมะขามเปียกลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนจนเดือด ประมาณ 30 นาที (ไม่ต้องคน)
- ใส่น้ำพริกแกงที่ผัดไว้ลงในหม้อ คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน โรยใบกระวานลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 40-45 นาที
- ใส่มันฝรั่งลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที
- ใส่หอมใหญ่ลงไป คนผสมเล็กน้อยพอเข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
- ใส่หัวกะทิที่เหลือลงต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที
- ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มต่ออีก 10 นาที จัดจานพร้อมเสิร์ฟ
7. ปูผัดผงกระหรี่ (Stir-Fried Crab in Curry Powder)
เมนูซีฟู้ด อีกเมนูที่ห้ามพลาด คือจะยังไงก็ต้องลอง รสชาติไม่เผ็ดมากกินง่ายความ กลมกล่อมจากผงกระหรี่ หอมใหญ่ กระเทียม เข้ากันได้ดีมากๆกับปู อร่อยแน่นอนไม่ผิดหวัง
ส่วนผสม
- ปูทะเล (ปูเนื้อ)
- ผงกะหรี่
- ไข่ไก่
- กระเทียมสับ
- พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว
- น้ำมันพริกเผา
- นมสด (รสจืด)
- ซอสหอยนางรม
- ซอสปรุงรสฝาเขียว
- น้ำตาลทราย
- หอมใหญ่
- ต้มหอมหั่นท่อน
- ขึ้นฉ่าย
วิธีทำ
- นำปู มาล้างทำความสะอาด โดยการนำไปต้มกับน้ำให้สุกเล็กน้อย แกะกระดอง และหั่นพักไว้
- เตรียมถ้วย ตอกไข่ไก่ผสมกับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสฝาเขียว และน้ำตาล เติมนมสด พริกสดซอย และผงกะหรี่ คนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพริกเผาลงไป ใส่กระเทียม หอมใหญ่ลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยปูที่หั่นไว้
- นำถ้วยที่มีส่วนผสม มาเทใส่ในกระทะ ผัดให้เข้ากัน (ชิมรสตามชอบ)เติมขึ้นฉ่าย ต้มหอม ผัดอีกนิด จัดจานพร้อมเสิร์ฟ
-
พะแนง (Panang curry)
อาหารไทยพื้นบ้านเมนูนี้ รสชาติกลมกล่อมด้วยความหวานจากกะทิสด และหอมละมุนจากพริกแกง ซึ่งบอกเลยว่าถูกปากต่างชาติไม่แพ้มัสมั่น นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ แล้วน่าจะติดอกติดใต ส่วนเนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ก็เปลี่ยนได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ เนื้อ หรือคนทานอาหารเจก็อาจใช้เต้าหู้แทนได้
ส่วนผสม
- พริกแกงพะแนง 4 ช้อนโต๊ะ
- หมูสันนอกหั่น 500 กรัม
- พริกขี้หนูเอาเม็ดออกซอย 5-7 เม็ด
- ใบมะกรูดซอย
- ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- กะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำพริกแกงผัดกับน้ำมัน บนไฟกลาง ให้สุก
- ใส่กะทิ เคี่ยวจนกะทิแตกมัน แล้วจึงใส่หมู
- พอหมูสุกดี ใส่ถั่วลิสงคั่ว ใบมะกรูดซอย.
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป
- จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อย แล้วเคียวจนมีน้ำมันออกมาค่ะ
- ตักจัดจานพร้อมเสิร์ฟ
-
ข้าวผัดไข่ (Egg Fried Rice)
ข้าวผัดไข่ เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่อร่อยจนหยุดไม่ได้ เพราะรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมหอมอร่อย
ส่วนผสม
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ข้าวสวย 300 กรัม (ควรหุงข้างคืน)
- ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย
- กระเทียมสับ (ไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำตาลทรายเล็กน้อย
- พริกไทย
วิธีทำ
- นำกระทะตั้งไฟกลางใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม
- ตอกไข่ไก่ลงกระทะ ยีไข่ๆให้แตกพอสุก
- ใส่ข้าวสวย ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ และน้ำตาลผัดให้เข้ากันด้วยไฟแรง
- โรยต้นหอม ผัดต่อเล็กน้อยให้เข้ากัน
- ตักข้าวผัดใส่จาน ตบแต่งด้วยเครื่องเคียง พร้อมเสิร์ฟได้
-
ผัดกะเพรา (Stir fried basil with minced pork)
ใครว่าเมนูผัดกะเพราเป็นเมนูสิ้นคิด ใช่เลยไม่ต้องคิดเพราะสั่งทุกครั้งอร่อยทุกครั้ง คือความ พริกกะเพราทำให้รสชาติเผ็ดร้อนกินแล้วไม่เลี่ยน กลิ่นหอมคือทำให้เจริญอาหารเข้าไปอีก เป็นเมนูหาทานง่าย มาไทยยังไงก็ต้องลอง
ส่วนผสม
- หมูสับ 300 กรัม
- ใบกะเพรา 50 กรัม
- พริกแดงจินดา 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอร้อน แล้วใส่กระเทียม และพริกแดงจินดาลงไปผัดจนกลิ่นหอม
- จากนั้นใส่หมูสับลงไปผัด
- เมื่อหมูเริ่มสุกให้ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดจนทุกอย่างเข้ากันดี
- จากนั้นใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้สลดลงเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟได้
11. ทอดมันปลา (Thai fish cakes)
อีกหนึ่งเมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ ที่เรียกว่ารสชาติกลมกล่อม คนที่ไม่ชอบทานอาหารทะเล ทานทอดมันปลาไทย แล้วลืมความไม่ชอบปลาไปได้เลย เพราะอร่อย รสดี ไม่เผ็ดมากไป
ส่วนผสม
- ปลาสด 300 กรัม (สับละเอียด)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เครื่องแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วฝักยาวซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ
- ใบมะกรูดซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช. 1/2 กก (สำหรับทอด)
วิธีทำ
- นำปลาสดสับละเลียดแช่แข็ง พอให้เนื้อเป็นน้ำแข็งเล็กน้อย มาปั่นจนเนื้อฟู
- นำเนื้อปลามาคลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องแกง น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
- ใส่ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด คลุกเคล้าให้เข้ากับปลา
- นำปลาที่ได้แล้วพักในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนำมาทอด
-
กล้วยทอด ( Thai Banana fritter)
เป็นเมนูที่มีทุกภาคในไทย และคิดว่าคงจะหาทานที่อื่นไม่ได้แล้ว คือแป้งที่ทอดหอม ๆ กรอบ ๆ ทำให้การกินกล้วยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เลยคิดว่าเป็นอีกเมนูที่แนะนำให้ลองเมื่อมาไทย
ส่วนผสม
- กล้วยน้ำว้าสุกห่าม ๆ (สีเหลืองปนเขียว) 1 หวี
- แป้งทอดกรอบ 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 140 กรัม(คั้นโดยผสมน้ำนิดหน่อย)
- เนื้อมะพร้าวขูด(เหลือจากคั้นกะทิ) 50 กรัม
- งาขาว (ดิบ) 25 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำแป้งทอดกรอบ และหัวกะทิ ใส่ลงในโถผสม คนให้พอเข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี จนแป้งเนื้อเดียวกัน
- ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
- จากนั้นใส่เนื้อมะพร้าวขูด และงาขาวลงไป ผสมให้เข้ากันดี จนน้ำตาลทรายละลายหมด
- นำกล้วยน้ำว้ามาปอกเปลือกและหั่นเป็นแนวยาว
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลาง นำกล้วยมาชุบแป้ง แล้วนำลงไปทอดในน้ำที่ร้อน
- คอยตะล่อมกล้วยทอดเป็นระยะ เพื่อให้กล้วยเป็นสีเสมอกัน และไม่ไหม้
- พอกล้วยเริ่มเป็นสีเหลืองตามต้องการ ให้นำขึ้นจากกระทะ มาพักสะเด็ดน้ำมัน
13. บัวลอย (Bua Loy or Thai Glutinous Rice Balls)
คล้ายๆว่าบัวลอยจะเป็นอาหารรอบดึกของใครหลายๆคน มักจะขายตามตลาดโต้รุ้ง และที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืน เป็นเมนูของหวานนำกะทิ สไตล์ขนมไทย และแป้งนุ่มๆทำให้ทานได้ง่าย จึงอยากแนะนำให้ลอง
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- หางกะทิ 1/2 ถ้วย
- หัวกะทิ 3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
วิธีทำ บัวลอย
- ผสมแป้งข้าวเหนียวผสมกับหางกะทิ โดยค่อย ๆ เติมหางกะทิลงไป นวดไปเรื่อย ๆ จนแป้งจับตัวเป็นก้อน โดยหากต้องการให้แป้งมีสีก็สามารถแต่งเติมไปได้
- สีเขียวเปลี่ยนจากหางกะทิ เป็นน้ำใบเตย
- สีม่วงเป็นน้ำดอกอัญชัน
- สีส้มเป็นเนื้อฟักทอง ในปริมาณ 1/2 ถ้วยเท่ากัน
- จากนั้นแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นเม็ดกลมเล็กๆ นำไปต้มในน้ำร้อน (ที่ไม่เดือด) จนแป้งสุกและลอยขึ้นมา ตักขึ้นมาใส่ชามที่มีน้ำพักไว้
- ตั้งหม้อโดยใช้ไฟอ่อน เติมหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันจนกะทิเริ่มเดือด
- ตักกะทิไปราดในบัวลอยที่ใส่ถ้วยเตรียมไว้
หากต้องการเพิ่มความอร่อยด้วยไข่ หรือไข่เค็ม ก็สามารถเพิ่มอรรถรสได้
รีวิวร้านบัวลอย
14. ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango sticky rice)
เมนูนี้อาจจะมีตามฤดูกาลสักหน่อยถ้าจะให้ได้มะม่วงที่หวานอร่อย แต่ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวเหนียวที่มูนกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ รสชาติอร่อยกลมกล่อม รับลองไม่มีที่ไหน ยังไงก็ต้องลอง
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 3 ถ้วย
- หัวกะทิ 75 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- มะม่วงสุก 1 ลูก
- ใบเตย 3 ใบ ม้วนให้เป็นชิ้นเดียวกัน
- สำหรับหุงกับข้าว
- ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุกแล้วคั่วสำหรับโรยหน้าข้าวเหนียว
ส่วนผสมกะทิราดหน้า
- หัวกะทิ 50 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- แป้งข้าวจ้าว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวซาวน้ำจนน้ำข้าวใส แช่น้ำทิ้งไว้ 5 ชม. เทน้ำทิ้งแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ต้มน้ำใส่หม้อพอน้ำเดือดใส่ใบเตย นำข้าวเหนียวใส่หวดนึ่งในน้ำเดือดนาน 10 นาที พอครบเวลาพลิกกลับด้านข้าวเหนียวแล้วนึ่งต่ออีก 10 นาที
- ใส่หัวกะทิ น้ำตาล เกลือและใบเตยลงในหม้อตั้งไฟอ่อน คนตลอดเวลาให้น้ำตาลละลาย พอกะทิเริ่มเดือดให้ปิดไฟ จากนั้นนำกะทิมาผสมกับข้าวเหนียวเกลี่ยเมล็ดข้าวแล้วคนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นคนข้าวด้านล่างขึ้นมาด้านบนแล้วปิดฝาไว้อีก 10 นาที จะสังเกตเห็นได้ว่าเมล็ดข้าวจะขึ้นเงาสวยงามพร้อมรับประทาน
- ทำน้ำกะทิราด โดยนำหัวกะทิตั้งไฟอ่อน จากนั้นเติมน้ำตาลทราย เกลือ แป้งข้าวจ้าว จนละลายเป็นเนื้อเดิมกัน พอเดือดปิดไฟทันที
- จัดจานข้าวเหนียวมะม่วงจานนี้ให้อร่อยโดยการโรยถั่วซีกที่อบมาใหม่ ๆ จะให้ความกรุบกรอบ
15. น้ำแตงโมปั่น (watermelon Smoothie)
ใครจะรู้ว่าน้ำแตงโมงปั่นกับอากาศร้อน ๆ ที่บ้านเรามันเข้ากันขนาดไหน เอาแตงโมสีแดงหวาน ๆ มาปั่นกับน้ำแข็ง เวลากินก็จะหวาน หอม อร่อยสดชื่นสุด ๆ
ส่วนผสม
- แตงโม 1 ลูก
- น้ำเชื่อม1/4 ถ้วยตวง
- น้ำแข็ง 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ปอกเปลือกแตงโม นำเมล็ดแตงโมออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- นำแตงโมที่หั่นไว้ น้ำเชื่อม น้ำแข็งทั้งหมดลงโถปั่น แล้วปั่นที่ความเร็วต่ำให้ส่วนผสมและน้ำแข็งพอเข้ากัน จากนั้นเพิ่มเป็นความเร็วสูงสุด ปั่นให้เนื้อเดียวกัน
- เทน้ำแตงโมที่ปั่นไว้ลงแก้ว จัดเสิร์ฟใส่แก้ว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 15 เมนู อาหารไทย แนะนำชาวต่างชาติ เรียกว่าหาทานไม่ยากเลย และหากจะโชว์ฝีไม้ลายมือในการทำก็ทำตามไม่อยากเกินความสามารถใช่มั๊ยล่ะคะ