วัดพะโคะ เป็นวัดชื่อดังในจังหวัดสงขลา เป็นวัดที่คนภาคใต้ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก โดยวัดพะโคะ หรือ วัดราชประดิษฐาน เป็นวัดสำคัญของจังหวัดสงขลา เพราะวัดพะโคะเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา ที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ซึ่งสมเด็จเจ้าพะโคะ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ได้เคยจำพรรษาอยู่เมื่อประมาณ ๔๐๐ ปีกว่ามาแล้ว ภายในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงลังกาประดิษฐานอยู่บนยอดเขาพัทธสิงห์ วัดพะโคะขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๐๒ ตอนที่ ๑๘๐ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ หน้าที่ ๑๓๕ มีพื้นที่ ๔ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา มีชื่อทางราชการว่าวัดราชประดิษฐาน ตั้งอยู่บนเขาพะโคะซึ่งมีชื่อในประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาว่าเขาภิพัชสิง เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองเมืองในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (เมืองสทิงพระ เมืองพัทลุง) และศูนย์กลางชุมชนพุทธศาสนาในแถบนี้ พระราชมุนีหรือที่รู้จักกันในนามหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เคยเป็นเจ้าอาวาสและประจำอยู่วัดแห่งนี้ วัดพะโคะจึงนำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อทวดมาให้ประชาชนชมและกราบไหว้บูชาพร้อมนำเสนอประวัติความเป็นมาของหลวงปู่ทวดจึงเปิดพิพิธภัณฑ์วัดพะโคะให้ประชาชนได้เข้าชมและสักการะหลวงพ่อทวด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ โดยของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ อาทิ พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา เครื่องทองเหลือง มีดพร้า ตะบันหมากทองเหลือง ธนบัตรและเหรียญสมัยก่อน เครื่องถ้วยกระเบื้อง รวมทั้งวัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อทวด เช่น อัฐบริขาร จีวร ไม้เท้า ลูกแก้วคู่บารมี เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิพิธภัณฑ์วัดพะโคะ
ปัจจุบันวัดได้มีการบูรณะและพัฒนาไปเป็นอย่างมาก มีการสร้างกระเช้าขึ้นไปบริเวณวัดซึ่งอยู่บนเนินเขา และเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัดสมเด็จเจ้าพะโคะรวมทั้งประวัติความเป็นมา แต่ก็ยังคงสภาพและอนุรักษ์ร่องรอยความเป็นมาของหลวงปู่ทวดไว้ให้คนที่เลื่อมใสศรัทธาได้เข้ามาตามรอยหลวงปู่ทวด ได้และทางวัดยังพัฒนาให้ชุมชนบริเวณวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้คนในชุมชนสามารถมีรายได้อีกด้วย
ของฝากวัดพะโคะ
ใครที่มีร่างกายแข็งแรงก็สามารถเดินขึ้นไปบนวัดทางบันไดจากด้านล่างริมถนนได้เลยค่ะ เพราะคุณจะได้ชมบรรยากาศทางเดินที่ร่มรื่น ต้นไม้เยอะแยะ มองแล้วสบายตา ช่วยบดบังแสงแดด ทำให้การเดินครั้งนี้ไม่ร้อนจนเกินไป แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเดินเล่นนับขั้นบันได หรือร่างกายไม่พร้อม คุณก็สามารถขับรถขึ้นไปจนถึงบริเวณด้านบนของวัดได้เลยนะคะ ทางวัดได้จัดที่จอดรถไว้อย่างสะดวก (ปล.ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้มีการปิดบริเวณวัดบางพื้นที่ และต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ในการเข้ามาในบริเวณวัด ซึ่งผู้เข้าชมอย่างเราๆก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี)
เริ่มจากนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปไหว้รูปปั้นหลวงปู่ทวด ในโบสถ์กันก่อน ภายในโบสถ์ก็จะมีรูปปั้นหลวงปู่ทวด มากมายหลายอิริยาบถ และมีร่องรอยที่เชื่อว่าเป็นรอยเท้าหลวงปู่ทวดอยู่ในโบสถ์ด้วย
ออกมาเดินดูบริเวณวัดร่มรื่นเป็นอย่างมาก ทางผ่านหากใครเดินขึ้นบันไดมาจะเจอ บ่อน้ำซักจีวร ของหลวงปู่ทวด ซึ่งมีคนโยนเหรียญลงไปไว้เต็มเลยค่ะ
บริเวณวัดยังมีร่องรอยของโบสถ์เก่า มีพระพุทธรูป ที่ยังได้รับการบูรณะไว้อย่างสวยงาม
หลักช้าง
บริเวณวัดมีเสาคล้องช้าง (หลักล่ามช้าง) : ใช้ผูกช้างศึกเจ้าเมืองสทิงพระ สมัยอยุธยาตอนปลาย อายุประมาณ 400 ปี พบเมื่อ พ.ศ.2537 พบโดย คุณจรูญ กาญจนเพ็ญ ที่มีคนนำช้างมาไหว้แก้บนเป็นจำนวนมาก
ในบริเวณวัดยังมีโบสถ์ที่ตกแต่งสวยงามมาก มีวิหารพระพุทธไสยาสน์(พระนอน) และ พระมาลิกเจดีย์ เป็นสถาปัตยกรรมภาคใต้แบบลังกาสมัยอยุธยา มีพระพุทธรูปอยู่ลอมรอบฐาน เราสามารถเดินชมความงามและไหว้พระขอพรได้
หากใครมีจิตศรัทธาจะทำบุญถวายสังฆทานกับท่านเจ้าอาวาสที่กุฏิซึ่งอยู่บริเวณภายในวัดก็สามารถทำได้ค่ะ ที่กุฏิเราสามารถมาชมลูกแก้วหลวงปู่ทวดและรูปปั่นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ทวดได้อีกด้วย
ปาฏิหาริย์แห่งหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล
ตำนานที่เกี่ยวกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มีเรื่องเล่ากันว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามชายฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเดินอยู่ ซึ่งท่านมีลักษณะที่แปลกกว่าคนอื่นๆ จึงอยากจะลองดีโดยการที่จอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่ เกิดเหตุพายุโหมกระหน่ำ ทำให้เรือแล่นต่อไปไม่ได้จนต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดที่นำมาเป็นเสบียงนั้นก็หมดลง โจรสลัดอ่อนล้า ร่างกายเพลีย สมเด็จพะโคะจึงนำเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเล ทำให้เกิดเป็นประกายโชติช่วง และน้ำทะเลที่เต็มก็ได้กลายเป็นน้ำจืด ที่ทำให้โจรสลัดได้คลายความกระหาย โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อสมเด็จพะโคะ กราบไหว้ขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาเมื่อเรื่องราวดังกล่าวก็ได้แพร่กระขายไปสู่ชาวบ้าน ชาวบ้านจึงพากันไปกราบไหว้บูชาสมเด็จพะโคะกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นเราก็จะได้ข่าวปาฏิหาริย์ต่างๆ นานา ของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นจำนวนมากจนถึงบัดนี้
ร้านกาแฟ PHAKO CUP
บริเวณวัดมีร้านกาแฟให้สามารถนั่งพักเหนื่อย จิบน้ำหวาน คลายร้อนได้ ใครโชคดีอาจจะเจอน้องแมวน้อยน่ารัก มาต้อนรับก็ได้นะคะ
รายละเอียด วัดพะโคะ (วัดหลวงปูทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)
ตั้งอยู่ : บริเวณเขาพัทธสิงค์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-17.00 น.
เบอร์โทร : 074-304-175
ที่จอดรถ : มีบริการ
การเดินทาง : ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 407 ทางสะพานติณสูลานนท์ผ่านเกาะยอ แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 408 (สงขลา-ระโนด) หลักกิโลเมตรที่ 110 ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคะ
