Wraptor สายพันธุ์เม็กซิกัน

การได้ลองอาหารอะไรใหม่ๆ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะหลีกหนีความจำเจของชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าพูดถึงอาหารเม็กซิกันแล้ว ในไทยก็จะมีร้านที่ดังๆอยู่ประมาณ 4 -5 ร้าน  อาหารเม็กซิกันที่ขึ้น ที่นึกถึงอันดับต้นๆ คือ นาโช่ (Nacho) แป้งกรอบๆ ที่ราดด้วยชีสเยิ้มๆ กับ Tacos แป้ง ไส้ ซอส ที่คุณจะเห็นจากการ์ตูนเรื่อง Turbo ที่มีหอยทากมาแข่งกัน ที่มี Food Truck Tacos  กลับมาที่ร้านอาหารที่วันนี้ได้มีโอกาสได้ไปกินคือ ร้าน Wraptor  

รู้จักร้านนี้จากกรุ๊ป Facebook ของเด็กมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KU จะฝากร้าน) เจ้าของร้านได้อธิบายว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบ Tex-Mex (Texas Mexican) และมีคราฟท์เบียร์จากทั่วทุกมุมโลก เพียง 2 อย่างนี้ก็เข้ามาอยู่ใน Waiting List ของเราแล้ว

ครั้งแรกที่ได้กินอาหารจากร้านนี้ คือ Burrito จากที่น้องสาวไปกินที่ร้านแล้ว ซื้อกลับบ้านมาให้ ต้องบอกว่า ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ เพราะมันค่อนข้างเละ แต่น้องสาวก็บอกว่ามันอร่อยอยู่นะ ตอนกินที่ร้าน อันนี้ก็ให้อภัยได้ เพราะอาหารที่เอากลับบ้าน รสชาติมันก็จะไม่อร่อยเท่ากับการที่นั่งกินที่ร้าน 

 หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาส มากินที่ร้านตั้งอยู่ในซอยอารีย์สัมพันธ์ริมถนน สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของร้านที่แชร์กับร้านอื่น เข้าซอยอารีย์สัมพันธ์ 2 ที่จอดรถอยู่ทางขวามือ ที่จอดรถมีเยอะมาก

 

 

บรรยากาศภายในร้าน

ดูสบายๆ มีประมาณ 11-40 ที่นั่ง น่านั่งเหมาะแก่การดื่มเบียร์ การตกแต่งร้านโทนสีขาว เก้าอื้ไม้อาจจะดูนั่งไม่สบายเท่าไหร่ แต่ที่สะดุดตาคือ ตู้แช่เบียร์ ซึ่งเป็นเบียร์ Craft ที่ไม่เคยเห็นจากที่ไหน เหมือนกับที่เจ้าของร้านเขียนไว้ในกลุ่มจริงๆ ที่นี่มีทั้งเบียร์แบบกระป๋องและเบียร์สด โดยมีพนักงานของร้านมาช่วยแนะนำได้เป็นอย่างดี 

เริ่มจากการสั่งเบียร์ก่อนเลย Stone Buenaveza (Pale Lager) แอลกอฮอล์ 4.7% (290 บาท) ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะกินง่าย สีสวย รสชาติเหมือนพวก เบียร์สิงห์ทั่วๆไป ไม่ถึงกับขม หรือแรงจนเกินไป หลังจากกิน อาหารไปสักพัก ต่อด้วย Brewing Elvis Juice (IPA) แอลกอฮอล์ 6.5%  (245 บาท) ต้องบอกว่าตัวนี้กลิ่นหอมมาก แต่ก็ขมมากเช่นกัน ซึ่งเป็นแบบฉบับของ IPA ส่วนเบียร์กระป๋อง ที่ร้านแนะนำคือ ผีบอกแอลกอฮอล์ 5.8%   (259 บาท) เบียร์คราฟท์สัญชาติไทย ที่มาพร้อมกับความหอมของผลไม้ แต่ก็ขม หรือนี่คงตรงกับสำนวนที่ว่าปากหวานก้นเปรี้ยวหรือเปล่า ตัวสุดท้ายที่ได้ลองคือ Hacklberg Limette  แอลกอฮอล์ 2.6%   (225 บาท) ซึ่งพนักงานแนะนำว่าหลังจากดื่มจะรู้สึกสดชื่น แต่หลังจากดื่มไปแล้วรู้สึกว่าหอมกลิ่นมะนาว ถึงสีจะไม่ค่อยสวยก็ตามเพราะไม่ค่อยใส กินง่ายรสออกหวานๆ เหมาะกับผู้หญิงที่อยากกินอะไรเบาๆ ส่วนน้ำที่ไม่มีแอลกอฮอล์นั้น จัด Honey Lime Soda มา รสชาติกลางๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

คราวนี้มาถึงอาหารกันบ้างแล้ว ก่อนอื่นถ้าคิดจะกินอาหารเม็กซิกัน ก็ต้องชอบกินมะเขือเทศเพราะในทุกๆจานจะมีมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบเสมอ อีกทั้งอาหารเม็กซิกันไม่ได้มีอะไรมาก แป้ง ไส้ ผัก ซอส มะนาว ยังคิดอยู่เลยว่าอยากหาร้านอาหารเม็กซิกันที่มีมากกว่านี้ลองบ้าง รายการอาหารที่นี่ถ้าจานเล็กใช้คำว่า Wraptor ซึ่งน่าจะล้อมาจากคำว่า Raptor ที่เป็นไดโนเสาร์ที่ออกกินสัตว์ตัวเล็กกว่า ส่วนจานใหญ่ใช้คำว่า T-Rex ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินสัตว์ตัวใหญ่ๆ ถ้าใครนึกไม่ออกก็นึกถึงไดโนเสาร์โลโก้ภาพยนตร์ Jurassic Park คือ T-Rex และ Raptor คือไดโนเสาร์ตัวเล็กหน่อยที่ชอบออกอาหารเป็นฝูงๆ

จานแรกคือ I love you honey Burrito Chicken (165 บาท)

แป้งห่อใส่ไก่ ใส่ผักกาด และมะเขือเทศ กินคู่กับ ซอสพริกของทานร้าน และมะเขือเทศซัลซ่า เข้ากันได้ดี แก้เลี่ยน จานนี้ทานง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการกินอาหารเม็กซิกัน รสชาติไม่จัดจนเกินไป กลางๆ และคลีนๆ  แต่อร่อย มีความหอมของมะนาว และเพิ่มรสจัดด้วยพริกขี้หนูแต่ก็ไม่ถึงกับเผ็ดจนทานไม่ได้ 

จานต่อมาคือ Wraptor Taco Number 1 (330 บาท)

เพราะไม่รู้จะสั่ง Taco แบบไหน เลยเลือกจานนี้มา มีครบทุกอย่าง และสามารถเลือกแป้งแบบกรอบ หรือ นุ่ม ก็ได้  หรือจะเลือกแบบผสมเลยก็ได้ จานนี้ค่อนข้างใหญ่ สามารถแบ่งกันได้ เพราะไส้ที่เค้าให้มานั้นค่อนข้างๆแน่น จะมีไส้ไก่ โดยส่วนตัวไม่ต่างจากไส้ของ I love you Honey Burrito ที่รู้สึกแตกต่างคือ ไส้กุ้งชีส ใน 1 แผ่นให้กุ้งถึง 3 ตัวใหญ่ๆเลย อันสุดท้ายคือ Avocado จะออกมันๆ แต่ถ้าไม่กิน Avocado คงรู้สึกเลี่ยนๆแน่ๆ 

 

จานสุดท้าย Terminator Fried Chicken Bowl แบบ 6 ชิ้น (219 บาท)

เป็นไก่ทอดกรอบไม่มีกระดูกทอด รสชาติกลางๆ กินคู่กับมายองเนส รสชาติเผ็ดนิดหน่อย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ถ้าอยากหาพวกเนื้อสัตว์มากินบ้าง 

ก่อนกลับบ้านสั่ง Quesadilla Chicken (190 บาท)

จริงๆถ้ากินที่ร้านก็น่าจะอร่อยกว่านี้ แต่กลับมาถึงบ้านก็รีบทานเลย ก็ยังดี แต่อโวคาโด้ เละไปหน่อยแล้ว เลยอาจทำให้รสจืดลงไป 

โดยรวมถือว่าโอเค ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปอีก เพราะรู้สึกว่าอาหารส่วนใหญ่ทานง่าย พนักงาน และบรรยากาศของร้านรู้สึกเป็นกันเอง ไม่ทำให้อึดอัด แต่ค่าเครื่องดื่มที่จัดไปวันนี้ แพงกว่าค่าอาหารอีก และยังมีเบียร์อีกหลายตัวที่ยังไม่เคยลอง หากใครสนใจก็ลองไปตำกันได้ โดยร้านจะเปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 23:00 น. และมีดิลิเวอรี่ด้วยนะ